สารพิษ หมายถึงสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา สารเคมีเหล่านี้อาจจะมีทั้งในสถานะของแข็ง ของเหลว หรือแม้กระทั่งก๊าซต่างๆ เมื่อเรารับประทาน สูดดม สัมผัส หรือฉีดสารเคมีเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย ก็อาจจะเป็นอันตรายต่ออวัยวะ หรือรบกวนการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกายได้ ระดับความรุนแรงจากสารพิษเหล่านี้ จะขึ้นอยู่กับชนิด ปริมาณ และวิธีการที่เราได้รับสารพิษ และหากไม่ทำการปฐมพยาบาลและการรักษาที่เหมาะสม ก็อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายอย่างถาวรเลยก็ได้
ลักษณะอาการที่บ่งบอกถึงผู้ได้รับสารพิษ
- อาการที่บ่งบอกถึงผู้ที่ได้รับสารพิษ อาจมีดังต่อไปนี้
- มีอาการแสบร้อน หรือรอยแดงในบริเวณปากและริมฝีปาก
- ลมหายใจมีกลิ่นคล้ายสารเคมี น้ำมัน หรือสีทาบ้าน
- อาเจียน
- หายใจไม่ออก
- ชัก
- หมดสติ
- ง่วงซึม
- สับสน มึนงง
วิธีการปฐมพยาบาลผู้ได้รับสารพิษเบื้องต้น
- การปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่ได้รับสารพิษทางปาก
ก่อนเริ่มทำการปฐมพยาบาล ผู้ช่วยเหลือจะต้องทำการประเมินผู้ที่ได้รับสารพิษ ตลอดจนถึงดูว่าสารพิษที่ผู้ป่วยได้รับนั้นเป็นสารพิษประเภทใด เพื่อจะได้สามารถทำการช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
1.1 สารพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
สารพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนต่างๆ เช่น กรด ด่าง และสารเคมีที่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมต่างๆ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะทำให้ริมฝีปาก ท้อง และลำคอเกิดอาการไหม้ แสบร้อน พองใน คลื่นไส้ อาเจียน หรือช็อก เราสามารถปฐมพยาบาลได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
- ตรวจดูว่าผู้ป่วยยังคงมีสติอยู่หรือไม่
- หากยังมีสติอยู่ ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรือนม เพื่อช่วยเจือจางสารพิษในกระเพาะ
- ห้ามให้ผู้ป่วยอาเจียน รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
- สารเคมีจำพวกน้ำมัน
เช่น น้ำมันก๊าด น้ำมันเบนซิน ยาฆ่าแมลงชนิดน้ำมัน ทำให้เกิดอาการแสบร้อน คลื่นไส้ อาเจียน และลมหายใจมีกลิ่นน้ำมัน มีวิธีการปฐมพยาบาลคือ
- ห้ามทำให้ผู้ป่วยอาเจียน รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
- ในช่วงระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล
- หากผู้ป่วยอาเจียน ควรจัดศีรษะผู้ป่วยให้อยู่ต่ำ เพื่อป้องกันการสำลักน้ำมันเข้าปอด
1.3 การรับประทานยาเกินขนาด
เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) ยานอนหลับ หรือยาแอสไพริน (Aspirin) มีวิธีปฐมพยาบาลดังนี้
- เจือจางสารพิษ ด้วยการให้ดื่มน้ำหรือนม
- ให้ผู้ป่วยอาเจียน โดยการใช้วิธีล้วงคอ หรือกวาดคอ เพื่อกระตุ้นให้อยากอาเจียน
- นำตัวส่งโรงพยาบาล
- การปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่ได้รับสารพิษทางการหายใจ
การสูดหายใจก๊าซพิษ มีทั้งก๊าซพิษที่ทำให้ขาดอากาศหายใจ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน หรือไฮโดรเจน ก๊าซที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือก๊าซที่ทำอันตรายทั่วร่าง เช่น ก๊าซอาร์ซีน หากพบผู้ป่วยที่สูดดมสารพิษเหล่านี้ สามารถปฐมพยาบาลได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- กลั้นหายใจ และรีบเปิดประตูหรือหน้าต่าง เพื่อถ่ายเทอากาศโดยรอบออก
- ย้ายผู้ป่วยออกมายังบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท และมีอากาศบริสุทธิ์
- ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ และการหายใจ
- หากผู้ป่วยไม่หายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้ทำการ CPR รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
- การปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่ได้รับสารพิษทางผิวหนัง
สารพิษที่อาจซึมเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนัง และทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย มีวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นดังนี้
- กำจัดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสารพิษเหล่านั้นในทันที
- ล้างทำความสะอาดบริเวณที่โดนสารพิษในทันที
- ควรล้างโดยการเปิดให้น้ำไหลผ่าน และล้างออกด้วยน้ำสะอาด เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที อาจใช้สบู่อ่อนๆ ร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน
- รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
- การปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่ได้รับสารพิษทางดวงตา
หากสารพิษต่างๆ เข้าสู่ดวงตา ควรทำการปฐมพยาบาลด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด เปิดให้น้ำไหลผ่านด้วยตา ควรล้างตาเป็นเวลาอย่างน้อย 15-20 นาที
- หากผู้ป่วยนั้นใส่คอนแทคเลนส์ ให้ทำการถอดคอนแทคเลนส์ก่อนล้างตา
- บรรเทาอาการปวด และจัดการกับอาการช็อก ปิดตาผู้ป่วย
- รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
วิธีเหล่านี้ เป็นเพียงวิธีในการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ได้รับสารพิษ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการช่วยเหลือผู้ป่วย คือการรีบนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ตัวผู้ช่วยเหลือก็ควรที่จะตั้งสติ และตรวจดูให้มั่นใจก่อนว่าตัวเองนั้นอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ก่อนจะเข้าช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองกลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือยากขึ้น