เชื่อว่าหลายๆคนคงจะได้ยินชื่อของยาถ่าย หรือ ยาระบาย กันมาบ้างแล้ว ซึ่งวันนี้ beauty-station จะพาผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับยาถ่าย หรือ ยาบิซาโคดิล กัน
ยาบิซาโคดิลหรือยาถ่ายคืออะไร?
ยาบิซาโคดิล (Bisacodyl) เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก โดยยาจะไปออกฤทธิ์กระตุ้นผนังลำไส้ให้มีการบีบตัวเป็นจังหวะ ทำให้อุจจาระเคลื่อนตัว แล้วเกิดการขับถ่าย
อันตรายจากการใช้ยาบิซาโคดิลผิดวิธี
ปัจจุบัน มีการนำยาระบายไปลักลอบใส่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แล้วอ้างว่าช่วยลดความอ้วนได้ ซึ่งความจริงแล้วการกินยาระบาย ไม่ได้มีส่วนช่วยให้ลดความอ้วน แถมการกินยาระบายจะยิ่งทำให้สมดุลเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล เช่น แคลเซียม คลอไรด์ โปแตสเซียม แมกนีเซียม และโซเดียม ซึ่งการไม่สมดุลของเกลือแร่เหล่านี้อาจทำให้ระบบการทำงานในร่างกายผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ อ่อนเพลีย สับสน และชักกระตุกได้ ถ้ายิ่งถ่ายมาก ร่างกายอาจเสี่ยงเกิดการขาดน้ำ และช็อกได้อีกด้วย
ยาระบาย อันตรายทุกชนิด หากใช้ไม่ถูกวิธี
ที่จริงแล้ว ยาระบายทุกๆ ตัว ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวบิซาโคดิล ควรใช้แค่เป็นครั้งคราวที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ไม่ควรใช่ต่อเนื่องระยะยาว เพราะจะทำให้ดื้อยาได้ โดยการดื้อยานั้น จะส่งผลเสียให้ ลำไส้เคยชินกับการที่ต้องมียาระบายมากระตุ้น ถึงจะเกิดการขับถ่าย เมื่อหยุดยาระบาย อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
ข้อควรระวังในการใช้ ยาระบาย
1.ใช้ในขนาดที่เหมาะสม
การใช้ยาระบาย จะขึ้นอยู่แต่ละคนว่ามีความต้องการขนาดของยาที่แตกต่างกันตามความรุนแรงของอาการท้องผูกและความคุ้นเคยหรือความเคยชินที่ผู้ใช้ยาที่ชาวบ้านเรียกว่า ธาตุแข็ง ธาตุหนัก หรือธาตุเบา เพราะถ้าธาตุเบาก็ควรเริ่มต้น ด้วยขนาดต่ำ คือ ครั้งละ ๑ เม็ด ก่อนนอนก็เพียงพอ แต่ถ้าธาตุหนัก อาจต้องใช้วันละ ๒-๔ เม็ด จึงจะออกฤทธิ์ได้ดี ในบางรายที่มีการใช้ยาในขนาดที่น้อยเกินไป ยาก็จะไม่แสดงฤทธิ์หรือถ่ายไม่ออก แต่ถ้ามีการใช้ยานี้มากเกินไปหรือเกินขนาด ก็จะไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่มากเกินไป จนทำให้เกิดปวดมวนท้อง และอ่อนเพลีย เนื่องจากเสียน้ำและเกลือแร่ออกมากับอุจจาระมากเกินไปได้
2. ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็น
เมื่อใช้ยากลุ่มนี้ติดต่อกันนานๆ ร่างกายของเราจะเริ่มทนต่อยา และจะทนต่อยามากขึ้นๆ เรื่อยๆ ตามความถี่และปริมาณการใช้ยา การทนต่อยา คือ การใช้ยาในขนาดเท่าเดิมแต่จะให้ผลในการรักษาลดน้อยลงกว่าเดิม ถ้าต้องการให้ยาออกฤทธิ์ให้ผลเช่นเดิม ต้องเพิ่มขนาดยามากขึ้น
3. ไม่ควรใช้ในการลดความอ้วน
ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ใช้เมื่อมีข้อบ่งใช้หรือเมื่อท้องผูกและต้องการระบายอุจจาระจริงๆ ไม่ควรใช้ในการลดความอ้วน เพราะไม่มีผลต่อการลดความอ้วนหรือลดน้ำหนักเลย และถ้าใช้พร่ำเพรื่ออาจทนต่อยาเพิ่มขนาดของยา เกิดผลเสียทั้งต่อสุขภาพและทรัพย์สินเงินทอง