ภาวะง่วงนอนหลังมื้อเที่ยงอาจจะฟังดูแปลก แต่นี่เป็นชื่อที่ทางการแพทย์ใช้เรียกจริง ๆ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แพทย์ใช้ชื่อนี้ เพราะมันเกิดจากการที่เรากินมื้อกลางวันมื้อใหญ่จนอิ่ม โดยเฉพาะอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน หลังจากที่อาหารเหล่านี้ผ่านกระบวนการย่อยอาหารแล้ว จะได้กรดอะมิโนตัวหนึ่งที่เรียกว่า ทริปโตเฟน (Tryptophan) เมื่อเข้าสู่ระบบประสาท จะมีผลให้สมองผ่อนคลายความตึงเครียด เมื่อร่างกายอยู่ในช่วงผ่อนคลาย จึงเกิดอาการง่วงนอน
- ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการภาวะง่วงนอนหลังมื้อเที่ยง
อันที่จริง ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดอาการ ภาวะง่วงนอนหลังมื้อเที่ยงนั้นไม่ได้มีแค่การกินอาหารมื้อกลางวันอิ่มเพียงเท่านั้น แต่มีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย โดยสามารถสรุปสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ภาวะง่วงนอนหลังมื้อเที่ยงได้ดังนี้
1.1 กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันมากเกินไปช่วงมื้อกลางวัน อาหารประเภทเหล่านี้จะใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนาน ได้กรดอะมิโนทริปโตเฟน ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย จนง่วงนอน
1.2 การพักผ่อนไม่เพียงพอ
1.3 ภาวะสมองอ่อนเพลียจากการโหมงานหนักเกินขีดจำกัดของร่างกาย
1.4 ร่างกายนำเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง เพราะต้องนำเลือดไปเลี้ยงอวัยวะในระบบย่อยอาหารในขณะย่อยอาหาร เพราะอาหารที่ย่อยยาก จะใช้เวลาย่อยนาน เลือดจึงถูกดึงไปใช้บริเวณนั้น
1.5 ออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอ หรือมีคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดมากเกินไป เกิดการง่วงหงาวหาวนอน ซึ่งเป็นกลไกที่ร่างกายพยายามเอาออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดให้มากขึ้น
1.6 สมองเปลี่ยนกรดอะมิโนทริปโตเฟน ให้เป็นสารเซโรโทนิน (Serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin) สาร 2 ตัวนี้กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน
2. วีธีแก้ภาวะง่วงนอนหลังมื้อเที่ยง
เพราะอาการง่วงนอนช่วงระหว่างทำงานทำให้เราไม่มีสมาธิ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทั้งยังทำให้กลายเป็นที่เพ่งเล็งของเจ้านายด้วย เราจึงต้องหาวิธีกำจัดอาการง่วงนี้ทิ้งซะ (เพราะนี่เป็นเวลาทำงาน ไม่ใช่เวลานอน) โดยให้ปฏิบัติดังนี้
2.1 นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยที่สุดคือ 5 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าร่างกายพักผ่อนเต็มที่ นอนเพียงพอ โอกาสที่จะง่วงระหว่างวันก็จะน้อยลง
2.2 หลังอาหารมื้อกลางวัน ควรขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง อย่างการเดินออกไปกินข้าวนอกออฟฟิศ (เดินไป-เดินกลับ) จะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายได้ดีขึ้น
2.3 ปรับนิสัยการกินอาหาร โดยเฉพาะมื้อกลางวัน พยายามอย่ากินอิ่มจนเกินไป ลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน และเคี้ยวอาหารให้ละเอียด จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่ายและดีขึ้น ร่างกายจะผลิตสารแห่งการนอนหลับน้อยลง
2.4 ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับน้ำและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองเต็มที่ ส่งผลให้สมองและร่างกายสดชื่น รวมถึงทำให้อยากเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น เมื่อได้ลุกเปลี่ยนอิริยาบถบ้างก็ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว
2.5 เคลียร์งานสำคัญหรืองานที่ต้องใช้สมองมากๆ ในช่วงเช้า เพราะสมองกำลังตื่นตัว การเก็บงานที่ต้องใช้สมองหนักๆ ไปทำในช่วงบ่าย จะทำให้รู้สึกเหนื่อย เพลีย เบื่อหน่าย ขี้เกียจ จากนั้นก็จะง่วงนอน
2.6 จัดสรรเวลาพักกลางวัน หากรู้ว่าตนเองฝืนไม่ไหว ให้หาโอกาสงีบหลับในช่วงพัก แค่ประมาณ 15-20 นาที ก็จะช่วยให้กระปรี้กระเปร่าขึ้น